Contact Us

E-Magazone
228/65 , Ratchada 32,
Jatujak Bangkok,Thailand 10900
Tel.0926992541
www.emagazone.com
Email: emagazone2017@gmail.com

Thank you Follow Us

รวมบทความ

Facebook

Stories all Around

Stories All Around สาระน่ารู้อยู่รอบตัวคุณ

Popular

ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

7 สิ่งที่คนวัย 40++ กำลังทำพลาดโดยไม่รู้ตัว


วัย 40 ขึ้นไป เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายและจิตใจเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากเรายังใช้พฤติกรรมบางอย่างโดยไม่รู้ตัว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง ความเสื่อมของสมอง และคุณภาพชีวิตที่ลดลง มาดูกันว่า 7 สิ่งที่เรามักทำพลาด โดยไม่รู้ตัวมีอะไรบ้าง และงานวิจัยบอกอะไรกับเรา
 
1. นอนดึก และนอนไม่พอ

หลายคนคิดว่าแค่ "นอนครบชั่วโมง" ก็พอ แต่ความจริงแล้ว “ช่วงเวลา” ที่นอน มีผลมากกว่าที่คิด งานวิจัยจาก National Sleep Foundation แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรนอน 7–9 ชั่วโมง และควรเข้านอนช่วง 22.00–23.00 น. เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ วงจรการนอนหลับลึก (deep sleep) ซึ่งมักเกิดในช่วงต้นของการนอน การนอนดึกเกินไปแม้จะครบชั่วโมง ร่างกายก็จะพลาดช่วงซ่อมแซมเซลล์และการขับสารพิษทางสมอง

เหตุผลสำคัญ:

การนอนก่อนเที่ยงคืนสัมพันธ์กับการหลั่ง Melatonin และ Growth Hormone ที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายและสมอง (Czeisler, Harvard Medical School, 2015)
คนที่นอนหลังเที่ยงคืนเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และอ้วนมากขึ้นกว่าคนที่นอนก่อน 5 เท่า (Wheaton et al., CDC, 2016)

คำแนะนำ: เข้านอนช่วง 22.00–23.00 น. และงดแสงสีฟ้าจากมือถือ/คอมอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน

2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

เมื่ออายุมากขึ้น ความรู้สึก "กระหายน้ำ" จะลดลง ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าขาดน้ำ งานวิจัยพบว่าภาวะขาดน้ำแม้เพียงเล็กน้อยทำให้ความจำสั้นและสมาธิลดลง (Journal of Nutrition, 2012)

 
ผลเสียของการขาดน้ำ:
- เลือดหนืด ความดันสูงขึ้น
- ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง
- ผิวพรรณเหี่ยวย่นและแก่เร็วขึ้น

คำแนะนำ: ดื่มน้ำสะอาด 1.5–2 ลิตร/วัน แบ่งจิบทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและบ่าย

3. กินโปรตีนไม่พอ

คนวัย 40++ มักลดปริมาณการกินลง แต่เผลอลด โปรตีน ด้วย ซึ่งสำคัญต่อการสร้างกล้ามเนื้อ งานวิจัยจาก American Journal of Clinical Nutrition (2015) พบว่าการกินโปรตีนอย่างน้อย 1.0–1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน ช่วยชะลอการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia)

ถ้าขาดโปรตีน:
- กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ทำให้เผาผลาญน้อยลง
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- แผลหายช้า

คำแนะนำ: กินโปรตีนคุณภาพ เช่น ปลา ไก่ ไข่ เต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือเวย์โปรตีน

 4. ไม่ออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance Training)

หลายคนคิดว่าแค่วิ่ง เดินเร็ว หรือปั่นจักรยานก็พอ แต่จริง ๆ แล้วกล้ามเนื้อและมวลกระดูกจะลดลงทุกปีหลังอายุ 40 หากไม่ทำเวทเทรนนิ่งหรือแรงต้าน จะเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและหกล้มง่ายในวัยสูงอายุ (WHO, 2020)



งานวิจัย: การออกกำลังกายแบบแรงต้าน 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถเพิ่มความหนาแน่นกระดูก และช่วยลดไขมันช่องท้องได้ดีกว่าคาร์ดิโออย่างเดียว (Journal of Bone and Mineral Research, 2017).

คำแนะนำ: เล่นเวท ดัมเบล ยางยืด หรือใช้แรงต้านจากน้ำหนักตัว เช่น push-up, squat, plank
  
5. จัดการความเครียดผิดวิธี

วัย 40++ มักมีภาระงาน ครอบครัว และการเงินสูง ความเครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลั่ง Cortisol มากเกินไป ซึ่งสัมพันธ์กับการสะสมไขมันหน้าท้อง โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า (Mayo Clinic, 2021)


ความผิดพลาดที่พบบ่อย:
- แก้เครียดด้วยการกิน/ดื่มแอลกอฮอล์
- หมกมุ่นกับมือถือหรือดูซีรีส์จนดึก
- ไม่หาวิธีผ่อนคลายเชิงบวก

คำแนะนำ: ใช้เทคนิคหายใจลึก ๆ 5 นาที/วัน ทำสมาธิ หรือเดินเล่นกลางแจ้ง ซึ่งงานวิจัยพบว่าช่วยลด Cortisol ได้จริง (Frontiers in Psychology, 2019)
 
6. มองข้ามการตรวจสุขภาพประจำปี

หลายคนรอจนมีอาการแล้วค่อยไปหาหมอ แต่งานวิจัยพบว่าการตรวจสุขภาพสามารถช่วยค้นหาความเสี่ยงตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น ความดันสูง ไขมันในเลือด หรือเบาหวาน ที่มักไม่แสดงอาการในช่วงแรก (CDC, 2022)


คำแนะนำ:
- ตรวจความดันและน้ำตาลในเลือดปีละ 1 ครั้ง
- ตรวจคัดกรองมะเร็งตามอายุ เช่น มะเร็งเต้านม (ผู้หญิง 40+), มะเร็งลำไส้ (50+)
 
7. ไม่ให้เวลากับสังคมและความสุขใจ

หลายคนโฟกัสแค่ "ทำงาน-ครอบครัว" จนละเลยมิตรภาพและกิจกรรมที่ทำให้ใจมีความสุข งานวิจัยจาก Harvard Study of Adult Development (การศึกษากว่า 75 ปี) พบว่า “ความสัมพันธ์ที่ดี” คือปัจจัยที่ทำให้คนอายุยืนและมีความสุขมากกว่าความร่ำรวยหรือชื่อเสียง
 

คำแนะนำ: ให้เวลากับเพื่อน การทำกิจกรรมกลุ่ม หรืออาสาสมัคร เพื่อกระตุ้นสมองและหัวใจให้สดชื่น
สรุป

การดูแลสุขภาพวัย 40++ ไม่ได้ซับซ้อน แต่อยู่ที่การ ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่เรามักมองข้าม เช่น เวลาเข้านอน ดื่มน้ำพอ กินโปรตีน ออกกำลังกายแรงต้าน จัดการความเครียด ตรวจสุขภาพ และรักษาความสัมพันธ์ หากทำได้ครบ จะช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และทำให้ชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ


อ้างอิง

1.Hirshkowitz, M., et al. (2015). National Sleep Foundation’s sleep time duration recommendations. Sleep Health, 1(1), 40-43.

2.Cappuccio, F. P., et al. (2010). Sleep duration and all-cause mortality: A systematic review and meta-analysis. European Heart Journal, 31(9), 1185–1192.

3.Yin, J., et al. (2020). Bedtime and sleep quality among adults: A population-based study. Sleep Health, 6(6), 738-745.

4.Van Cauter, E., & Plat, L. (1996). Physiology of growth hormone secretion during sleep. Journal of Pediatrics, 128(5), S32-S37.

5.Walker, M. (2017). Why We Sleep: Unlocking the Power of Sleep and Dreams. Scribner.

6.Popkin, B. M., et al. (2010). Water, hydration, and health. Nutrition Reviews, 68(8), 439–458.

7.Chang, A. M., et al. (2015). Evening use of light-emitting eReaders negatively affects sleep, circadian timing, and next-morning alertness. PNAS, 112(4), 1232-1237.

8.World Health Organization (2020). Physical activity.

9.Nowotny, K., et al. (2015). Advanced glycation end products and oxidative stress in type 2 diabetes. Diabetes/Metabolism Research and Reviews, 31(2), 127–138.

10.Si, S., et al. (2014). Effectiveness of general practice-based health checks: A systematic review and meta-analysis. International Journal of Epidemiology, 43(4), 1188–1201.

11.Chrousos, G. P. (2009). Stress and disorders of the stress system. Nature Reviews Endocrinology, 5(7), 374–381

Story : emag

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มะกรูดดองน้ำผึ้ง ยาอายุวัฒนะ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงเลือด ผิวพรรณ​ดี

ชะเอมเถา สรรพคุณมากล้น จากเถาถึงผล รักษาโรคสารพัด

รสชาติอาหารที่ควรกินในฤดูหนาว