เมืองไทยก็มีวาฬบรูด้าให้ดูที่สมุทรสาคร

ตื่นตากับทริปนั่งเรือดูวาฬบรูด้า จ.สมุทรสาคร 

Story&Photo by Niki9

ครั้งแรกที่เห็นภาพวาฬบรูด้าอ้าปากกว้างกลางทะเลอ่าวไทยปรากฎขึ้นในโซเชียลของเพื่อนนักเขียนท่านหนึ่ง ข้าพเจ้าถึงกับตื่นเต้น และติดตามสอบถามถึงทริปดูวาฬครั้งต่อไปว่าอีกเมื่อไหร่

เมื่อจัดหาวันว่างและรวบรวมกัลยาณมิตรได้กลุ่มเล็กๆ ที่สนใจไปดูวาฬด้วยกันแล้ว การนัดหมายวันเดินทางจึงเริ่มขึ้นในเช้าวันเด็กที่ผู้ใหญ่ก็มีกิจกรรมสนุกไม่แพ้เด็กๆ

จุดนัดหมายลงเรือดูวาฬ อยู่ที่ ท่าเรือปากคลองหมู่บ้านประมงพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร หลังจากปักหมุดแผนที่ GPS บนมือแล้วใช้เวลาขับรถไปถึงปลายทางราว 1 ชั่วโมงกว่า 

เรือท่องเที่ยวขนาด 60 กว่าที่นั่ง จอดเทียบท่ารอนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ลงเรือ เมื่อได้เวลาเรือเริ่มแล่นออกจากท่ามุ่งหน้าสู่ทะเลอ่าวไทยตอนใน บนชั้น 2 ของเรือ ทุกที่นั่งถูกจับจองด้วยนักท่องเที่ยวจนเต็ม เรือนำเที่ยวดูวาฬลำนี้มี 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างเป็นห้องโดยสารติดแอร์มีหน้าต่างกระจกรอบด้านให้นั่งชมวิวเพลินๆ มีเบาะเก้าอี้หนังนั่งเอนนอนได้สบายๆ มีทีวี เสื้อชูชีพอยู่ใต้เก้าอี้นั่งทุกตัว มีห้องน้ำ 2 ห้องอยู่ด้านนอกห้องผู้โดยสาร ท้ายเรือมีอ่างล้างมือไว้บริการ 

ส่วนชั้น 2 ของเรือมีบันไดทางขึ้น หลังคาคลุมด้วยผ้าใบกันแดดให้นั่งรับลมเย็นๆ ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางได้เต็มตา ส่วนด้านหน้าห้องกัปตันเรือยังมีที่นั่งเล็กๆ รับลมชมวิวอีกจุดที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ รอบเรือสามารถเดินยืดเส้นสาย หรือเลือกมุมชมวาฬกลางทะเลอ่าวไทยได้ตามชอบใจ

เรือค่อยๆ แล่นห่างหมู่บ้านประมงและฟาร์มหอยแมลงภู่ของชาวบ้านจนเลยปากอ่าวไปไกล พบโบสถ์หลังเก่าตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางทะเล เดิมโบสถ์แห่งนี้เคยตั้งอยู่บนชายฝัง เมื่อน้ำทะเลกัดเซาะแผ่นดินหายไปโบสถ์เก่าหลังนี้จึงตั้งโดดเด่นสะดุดตา เรือแล่นไปไม่ไกลมีนกนางนวลแกลบฝูงใหญ่บินโฉบไปมาตามหลังเรือได้สักพักใหญ่ก่อนบินหายไป 

คุณเอ รุ่งโรจน์ จุกมงคล วิทยากรพิเศษผู้เชี่ยวชาญด้านนกและธรรมชาติ และเป็นคนในท้องถิ่นตัวจริงทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม กระตือรือล้นให้ข้อมูลการดูวาฬอย่างละเอียดกับนักท่องเที่ยว เสริมความรู้เรื่องนกให้อีกด้วย นับว่าคุ้มค่าจริงๆ สำหรับทริปดูวาฬ ชมนก ครั้งนี้ 

ความเป็นมาของทริปนำเที่ยวนั่งเรือดูวาฬบรูด้าเริ่มต้นราว 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ข้อมูลของวาฬบรูด้าในอ่าวไทยตอนในเริ่มแพร่หลาย โดยมีเรือประมงของชาวบ้านในแถบบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี นำเรือประมงขนาดเล็กที่ดัดแปลงมาสำหรับรับนักท่องเที่ยวออกไปชมวาฬเป็นหมู่คณะ 

ภายหลังเมื่อมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวาฬบรูด้ามากขึ้นและพบว่าอาศัยอยู่ในอ่าวไทยตอนในตลอดทั้งปี โดยจะมีวาฬบรูดาอาศัยอยู่ประมาณ 50 - 60 ตัว พบหนาแน่นอยู่ทางตอนกลางเรื่อยไปจนถึงด้านตะวันตกของอ่าวไทยตอนใน จากปากแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม และ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

ดังนั้นคุณเอ ซึ่งเป็นคนโคกขามและชาวบ้านประมงในพื้นที่พันทายนรสิงห์ จึงมีความตั้งใจอยากส่งเสริมกิจกรรมดูวาฬเพื่อเป็นการอนุรักษ์และให้เกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของการจัดทริปนำเที่ยวดูวาฬบรูด้าจากทางปากคลองหมู่บ้านประมงพันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับกรุงเทพฯ ทำให้การดูวาฬบรูด้าเป็นที่รู้จักและนิยมแพร่หลายยิ่งขึ้น เพราะใกล้กรุงเทพฯ โดยเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ที่ทำเพื่อกิจกรรมดูวาฬโดยเฉพาะ 

หลังจากเรือแล่นมาได้ราว 12 ไมล์ทะเล ใช้เวลา 1 ชม.กว่า คุณเจ๋ง เจ้าของเรือและลูกเรือเริ่มทำหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตวาฬบรูด้าอยู่บนดาดฟ้าเรือ โดยดูว่ามันจะโผล่ขึ้นผิวน้ำทิศทางใด เรือเบาเครื่องลอยลำอยู่กลางทะเลอ่าวไทย นักท่องเที่ยวต่างตั้งตารวาฬอวดโฉมด้วยใจระทึก

“ที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกามีวาฬพ่นน้ำอยู่ตัวนึงห่างเรือ 200 เมตร” สิ้นเสียงเจ้าของเรือตะโกนบอกนักท่องเที่ยวให้เฝ้าดูวาฬไม่นาน ภาพวาฬบรูด้าพ่นน้ำโชว์อีกรอบ ทุกคนบนเรือต่างส่งเสียงดีใจสนุกสนานและลุ้นรอคอยการปรากฎตัวของวาฬบรูด้าอีกหลายครั้ง และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อวาฬบรูด้าแม่ลูกว่ายกระโจนขึ้นสู่ผิวน้ำ บางครั้งเห็นวาฬคู่หนุ่มสาวว่ายโผล่ขึ้นมาไม่ห่างจากเรือมากนัก 

ช่วงเที่ยงของวันมีบริการอาหารปุฟเฟต์บนเรือให้นักท่องเที่ยว แถม
ท้ายขนมหวานลอดช่องวัดเจตได้อิ่มอร่อยระหว่างนั่งชมวาฬอีกด้วย นับว่าเป็นทริปที่คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ 

ตลอดทั้งวันข้าพเจ้าได้เห็นวาฬขึ้นมาอวดโฉมราว 6 ตัว ผู้ร่วมทริปคนหนึ่งเล่าว่า เคยซื้อทัวร์ไปชมวาฬบรูด้าในต่างประเทศเสียเงินค่าไปดูแพงมาก แต่กลับเห็นวาฬไกลลิบลับ ขณะที่การนั่งเรือดูเจ้าวาฬในทะเลอ่าวไทยครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นและเห็นได้ชัดเจนกว่าที่คาดหวัง สร้างความตื่นตาประทับใจในการมาท่องเที่ยวนั่งเรือดูวาฬครั้งนี้เป็นอย่างมาก 

ฤดูกาลนั่งเรือดูวาฬบรูด้าในอ่าวไทยตอนใน สามารถดูได้ตลอดปี 
เพราะอยู่ประจำถิ่น ช่วงฤดูหนาวจะเหมาะที่สุด เพราะทะเลเรียบปราศจากคลื่นลม และอากาสเย็นสบาย..

หลังจากดูวาฬจนอิ่มเอมใจแล้ว บ่ายสามโมงได้เวลาเดินทางกลับเข้าฝั่ง ฝูงนกนางนวลแกลบบินตามเรือมาอีกครั้งจนถึงบริเวณปากคลองหมู่บ้านประมง เสมือนเจ้าบ้านที่บินมาส่งแขกกลับสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย ก่อนตะวันลาลับฟ้า 

การนั่งเรือดูวาฬ ชมนก กินซีฟู้ด เที่ยวทะเลกลางอ่าวไทย นับเป็นทริปท่องเที่ยวครบรสใกล้กรุงเทพ ที่บอกได้เลยว่า สนุกสนาน คุ้มค่า น่าประทับใจหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเมืองไทยของเรานี่เอง…

Trip Talk ดูวาฬให้สนุกและปลอดภัย
ข้อแนะนำและข้อควรปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวและคนขับเรือนำชมวาฬบรูด้า ดังนี้ 1.ไม่ควรนำเรือเข้าใกล้วาฬมากกว่ารัศมี 300 เมตร 2.ถ้าวาฬบรูด้าเข้ามาใกล้เรือควรดับเครื่องยนต์ ไม่ควรเปลี่ยนทิศทางและความเร็วเรือ 3. เมื่อมีโอกาสอยู่ใกล้วาฬควรชะลอหรือดับเครื่องยนต์ ห้ามกระโดดน้ำลงไปถ่ายรูปกับวาฬ (สำหรับข้อห้ามอันหลังคงไม่มีท่านใดกล้าทำแน่นอน) 4.เมื่อวาฬว่ายน้ำออกจากตำแหน่งที่เราสังเกตุเห็น ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ตาม จะทำให้วาฬฯ ตกใจว่ายน้ำหนีได้ 5.วาฬจะใช้คลื่นเสียงในการสื่อสารและหาอาหารและเดินทาง ดังนั้นงดใช้เสียงหรือใช้เสียงให้น้อยที่สุด 6.นักท่องเที่ยวที่จะเหมาลำเครื่องบินมาดูวาฬควรอยู่ในระยะความสูงระหว่าง 300 – 500 เมตร จากผิวน้ำ


สอบถามรายละเอียด 

Booking ทริปนั่งเรือดูวาฬบรูด้า ชมนก กินซีฟู๊ดได้ที่
eMag.โทร.0619462927
Email: emagazone2017@gmail.com
www.emagazone.com

ขอบคุณข้อมูลและภาพถ่ายบางส่วน

คุณรุ่งโรจน์ จุกมงคล

JK Seaside Tour
ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล
พอพล นนทภา

FB.#วาฬบ​รูด้า​สมุทรสาคร​